ขนมงาหรือที่บางครั้งเรียกว่าขนมอีตุย เป็นขนมพื้นบ้านที่มีความนิยมอย่างกว้างขวางในประเทศไทย มีลักษณะที่น่านับถือเนื่องจากความอร่อยที่แตกต่างจากขนมอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกนำไปแกงทอดเพื่อให้กรอบนอกนุ่มใน ซึ่งการทำขนมงานั้นมีความเชี่ยวชาญและน้ำแน่นในกระบวนการผลิต
ขนมงา(ขนมอีตุย)กรอบนอกนุ่มในไม่อมน้ำมันไส้อร่อยๆจร้า [VIDEO]
ส่วนผสมแป้ง
1.แป้งข้าวเหนียว 2+1/2 ถ้วยตวง
2.แป้งข้าวจ้าว 1/2 ถ้วยตวง
3.น้ำมันพืช 50 ml
4.น้ำตาลทราย 100 กรัม
5.เกลือ 1 ช้อนชา
6.น้ำร้อน 180 ml
7.ผงฟู 1+1/2 ช้อนชา
8.งาขาว-งาดำตามชอบค่ะ
ส่วนผสมไส้
1.ถั่วเขียวกระเทาะเปลือกยังไม่แช่น้ำ 250 กรัม
2.หัวกะทิ 100 ml
3.น้ำตาลทราย 100 กรัมความหวานปรับได้ตามชอบค่ะ
4.เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำดูได้ตามคลิปเลยจร้า
ขอบคุณที่รับชมค่ะ😊😊
Ingredient1
1.Glutinous rice flour 250 gram
2. rice flour 50 gram
3.oli 50 ml
4.sugar 100 gram
5.salt 1 teaspoon
6.hot water 180 ml
7.Baking powder 1+1/2 teaspoon
8.sesame seeds 50 gram
Ingredient 2
1.Peeled green beans
2.coconut milk 100 ml
3.sugar 100 gram
4.salt 1 teaspoon
Thank you 😊😄😍
วัตถุประสงค์ของขนมงา
การทำขนมงามีวัตถุประสงค์หลายอย่าง ตั้งแต่การบรรเทาความหิวจนถึงเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมและประเพณีของคนไทย นอกจากนี้ยังเป็นอาหารของเล่นที่เป็นที่นิยมในงานเลี้ยง งานแต่งงาน และเทศกาลต่าง ๆ
ส่วนประกอบของขนมงา
ขนมงามีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังนี้:
1. แป้งข้าวเจ้า
แป้งข้าวเจ้าเป็นส่วนประกอบหลักที่ใช้ในการทำขนมงา ความเบนที่มากของแป้งนี้ช่วยให้ขนมมีความกรอบเมื่อทำอาหารและเติมความหวานให้กับขนมอย่างลงตัว
2. น้ำตาลทราย
น้ำตาลทรายทำหน้าที่เป็นตัวทำให้ขนมมีรสหวาน ๆ และเพิ่มความหอมให้กับขนมงา
3. น้ำเปล่า
น้ำเปล่าเป็นส่วนที่ช่วยให้แป้งข้าวเจ้าและน้ำตาลทรายผสมเข้าด้วยกันให้เป็นก้อนเนื้อเดียวกัน
4. เกลือ
เกลือช่วยเพิ่มรสเค็มให้กับขนมงา ซึ่งช่วยเพิ่มความอร่อยในทุกความละเอียดของขนม
5. มันฝรั่ง
มันฝรั่งมีบทบาทในการเพิ่มความนุ่มนวลให้กับลักษณะของขนมงา และช่วยให้ขนมสามารถยืดเหยียดและห่อหุ้มได้
ขั้นตอนการทำขนมงา
1. เตรียมส่วนประกอบ
ก่อนที่จะทำขนมงาเราจำเป็นต้องเตรียมส่วนประกอบทั้งหมดให้พร้อม นอกจากแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย น้ำเปล่า เกลือ และมันฝรั่งแล้วยังต้องใช้ครีมเทียมเพื่อห่อหุ้มขนมด้วย
2. ผสมส่วนประกอบ
หลังจากที่เตรียมส่วนประกอบครบทุกอย่างแล้ว เราก็จะเริ่มผสมส่วนประกอบเข้าด้วยกัน ให้แป้งข้าวเจ้าผสมกับน้ำเปล่าและเกลือ จากนั้นนำมันฝรั่งมาเติมเข้าไปในส่วนผสม และค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป ควรคนผสมจนกว่าส่วนประกอบทุกส่วนจะเกิดการผสมเข้ากันอย่างสม่ำเสมอ
3. ขนมงาคลุกเคล้า
เมื่อส่วนประกอบทุกส่วนเคลือบกันอย่างดีแล้ว เราจะนำมันไปเปิดคลุมหน้าที่โปร่งใสและใช้มือบีบเนื้อขนมให้แน่นและห่อหุ้มด้วยครีมเทียม
4. ทอดขนมงา
เมื่อขนมงาได้รับการห่อหุ้มด้วยครีมเทียมแล้ว เราก็จะนำขนมไปยัดในน้ำมันร้อนและทอดจนกว่าจะเหลืองกรอบ โดยควรใช้ไฟกลางปานกลางเพื่อให้ได้ขนมที่สุกและกรอบอย่างที่ควร
เคล็ดลับในการทำขนมงา
1. ใช้แป้งข้าวเจ้าคุณภาพดี
ควรเลือกใช้แป้งข้าวเจ้าคุณภาพดีเสมอ เนื่องจากคุณภาพของแป้งจะมีผลต่อรสชาติและลักษณะของขนมงา
2. ควบคุมอุณหภูมิขณะทอด
การควบคุมอุณหภูมิขณะทอดขนมงาเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ขนมสุกและกรอบอย่างตรงตามที่ควร
3. นำขนมไปเตรียมใช้งานทันเวลา
ขนมงาเมื่อทำเสร็จแล้วควรนำไปเตรียมใช้งานทันทีเพื่อให้คงความกรอบอยู่เสมอ
สรุป
ขนมงาหรือขนมอีตุยเป็นขนมพื้นบ้านที่เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางในประเทศไทย เนื่องจากความอร่อยที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง การทำขนมงานั้นต้องใส่ใจในความรอบคอบและความเชี่ยวชาญในกระบวนการผลิต โดยใช้ส่วนประกอบที่เหมาะสมและควบคู่กับเคล็ดลับในการทำขนมงา
FAQs
1. ขนมงามีกลิ่นหอมอะไรบ้าง? ขนมงามีกลิ่นหอมจากการทำขนมโดยใช้มันฝรั่งในส่วนประกอบ ซึ่งมีกลิ่นหอมที่น่าติดใจและคล้ายกับกลิ่นแป้งข้าว
2. สามารถเพิ่มส่วนประกอบอื่น ๆ ในขนมงาได้หรือไม่? ใช่ สามารถเพิ่มส่วนประกอบอื่น ๆ เข้าไปในขนมงาได้ตามความชอบ เช่น สามารถใส่ถั่วลิสงหรือเครื่องปรุงรสเพิ่มเติม
3. สามารถเก็บขนมงาไว้นานเท่าไหร่? ขนมงาสามารถเก็บไว้ได้ประมาณ 2-3 วัน แต่ควรเก็บในที่ที่แห้งและไม่มีความชื้นเพื่อความคงสภาพของขนม
4. สามารถทอดขนมงาในน้ำมันอื่น ๆ ได้หรือไม่? ใช่ สามารถทอดขนมงาในน้ำมันอื่น ๆ ตามความต้องการ เช่น น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันพืชต่าง ๆ แต่ควรใช้น้ำมันที่เหมาะสมและไม่มีกลิ่นเนย
5. ขนมงามีค่าอาหารที่สูงหรือไม่? ขนมงามีค่าอาหารที่ค่อนข้างสูง มีแคลอรี่ที่มากพอสมควร ควรระมัดระวังในการบริโภคเมื่อต้องการควบคุมน้ำหนัก