ความอร่อยและความหลากหลายของอาหารไทยได้รับความนิยมทั่วโลก และหมกหน่อไม้ใส่หมูสามชั้นหรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “หมกหม้อ” เป็นอีกหนึ่งเมนูที่มีรสชาติที่เข้มข้นและน้ำลายคลุกเคล้ากันอย่างลงตัว ในบทความนี้เราจะค้นหาเกี่ยวกับหมกหม้อและเคล็ดลับในการทำให้รสชาติอร่อยของมันอย่างที่คนไทยรัก จากวัตถุดิบที่สดใหม่และเส้นทางการปรุงแต่งที่ถูกต้อง มาเริ่มต้นกันเลย!
หมกหน่อไม้ใส่หมูสามชั้น(หมกหม้อ)ไม่ง้อใบตองอร่อยมาก [VIDEO]
ส่วนผสม
1.หน่อไม่ถุง 2 ถุง
2.หมูสามชั้น 700 กรัม
3.น้ำใบย่านาง 700 ml
4.พริแดง15-20 เม็ดความเผ็ดตามชอบ
5.หอมแดง 5 หัว
6.ต้นหอม 5 ต้น
7.ใบแมงลักตามชอบ
8.ตะไคร้ 3 ต้น
9.ใบมะกรูด 5 ใบ
10.ข้าวเบือ 1 ทัพพี
11.น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
12.น้ำปลาร้า 3 ทัพพี
ส่วนผสมในการต้มหน่อไม้
1.น้ำเปล่า 2 ลิตร
2.เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
3.หน่อไม้
วิธีทำดูได้ตามคลิปเลยจร้า
ขอบคุณที่รับชมค่ะ😊😊
1. ประวัติของหมกหม้อ
หมกหม้อเป็นอาหารที่มีกำเนิดและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในภูมิภาคอีสานของประเทศไทย มีต้นกำเนิดมาจากวัฒนธรรมของชาวอีสานที่ต้องการนำวัตถุดิบในพื้นที่ให้เป็นอาหารที่อร่อยและอุดมสมบูรณ์ หมกหม้อประกอบด้วยหน่อไม้และเนื้อหมูสามชั้นที่เป็นวัตถุดิบหลัก รวมถึงเครื่องปรุงในการทำอาหารนี้มีรสชาติเปรี้ยวหวาน สามารถปรุงรสตามความชอบของแต่ละครอบครัว
การทำหมกหม้อขึ้นกับความอุดมสมบูรณ์และทรัพยากรที่อีสานมีอยู่มากมาย เนื่องจากที่นี่เป็นพื้นที่ที่มีการเกษตรกรรมอย่างหลากหลาย หน่อไม้ที่ใช้ในการทำหมกหม้อเป็นหน่อไม้จากต้นไม้และมีรสชาติหวานอ่อนๆ ที่คลุกเคล้ากับเนื้อหมูสามชั้นที่มีเนื้อนุ่มนวลและหวาน ทำให้รสชาติของหมกหม้อเป็นอย่างเสน่ห์และเป็นที่นิยมของชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่มาถึงภูมิภาคอีสาน
ในปัจจุบันหมกหม้อได้กลายเป็นอาหารที่นิยมอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ การทำหมกหม้อได้รับการพัฒนาให้มีรสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้นและมีการเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงเพิ่มเติม เช่น ผักสด พริกเผ็ด และเครื่องปรุงเสริมสำหรับเสิร์ฟร่วมกับหมกหม้อ หมกหม้อถือเป็นอาหารที่แสดงถึงวัฒนธรรมและความอร่อยของไทยอย่างแท้จริง ดังนั้น หากมีโอกาสมาถึงภูมิภาคอีสาน อย่าลืมลองสัมผัสประสบการณ์ในการรับประทานหมกหม้อที่หอมอร่อยน่าตื่นเต้นนี้ และควรพยายามสูตรการทำให้เป็นที่น่าสนใจและอร่อยมากที่สุด
2. วัตถุดิบและเครื่องปรุงหมกหม้อ
| ส่วนผสมในการทำหมกหม้อ | ปริมาณ |
|---|---|
| หน่อไม้ถุง | 2 ถุง |
| หมูสามชั้น | 700 กรัม |
| น้ำใบย่านาง | 700 มิลลิลิตร |
| พริแดง | 15-20 เม็ด |
| หอมแดง | 5 หัว |
| ต้นหอม | 5 ต้น |
| ใบแมงลักตามชอบ | – |
| ตะไคร้ | 3 ต้น |
| ใบมะกรูด | 5 ใบ |
| ข้าวเบือ | 1 ทัพพี |
| น้ำปลา | 1 ช้อนโต๊ะ |
| น้ำปลาร้า | 3 ทัพพี |
| ส่วนผสมในการต้มหน่อไม้ | น้ำเปล่า 2 ลิตร |
| เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ | |
| หน่อไม้ |
หมายเหตุ: สามารถปรับปรุงส่วนผสมตามความชอบและรสชาติที่ต้องการได้ตามต้องการของแต่ละครอบครัว
3. ขั้นตอนการทำหมกหม้อ
- แช่หน่อไม้: นำหน่อไม้ที่สะอาดมาแช่ในน้ำเย็นเพื่อให้หน่อไม้นิ่มนวลและพร้อมในการใช้งาน
- ต้มหมู: นำเนื้อหมูสามชั้นมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และต้มหมูในน้ำเดือดโดยใส่เกลือและน้ำปลาร้าเข้าไป ให้หมูสุกนุ่ม และรับรสชาติ
- เตรียมเครื่องปรุง: สับหอมแดง ต้นหอม พริแดง และตะไคร้ให้ละเอียด เตรียมใบมะกรูดและใบแมงลัก
- คลุกเคล้า: นำหน่อไม้ที่แช่น้ำมาคลุกเคล้ากับเนื้อหมูสามชั้นที่ต้มสุก โดยใส่น้ำใบย่านาง น้ำมะนาว และน้ำปลา ให้ทั่วกัน
- ปรุงรส: ตั้งกระทะให้ร้อน และใส่เครื่องปรุงที่สับเตรียมไว้ลงไป คลุกเคล้าให้เครื่องปรุงแปลกผสมกัน และปรุงรสตามชอบ
- ต้มหมกหม้อ: นำหมกหม้อที่คลุกเคล้าแล้วมาต้มในน้ำเดือดจนหมกหม้อสุกนิ่ม และน้ำซุปมีรสชาติที่เข้มข้น
- เสิร์ฟหมกหม้อ: เสิร์ฟหมกหม้อในชามพร้อมใส่ใบมะกรูดและใบแมงลัก รับประทานคู่กับข้าวเบือ และเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงเพิ่มเติมตามชอบ
4. ความเป็นที่นิยมของหมกหม้อ
หมกหม้อเป็นเมนูอาหารที่มีความเป็นที่นิยมอย่างสูงในภูมิภาคอีสานของประเทศไทย และกลายเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมและความรู้จักทั่วไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ ความเป็นที่นิยมของหมกหม้อนั้นมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยที่ทำให้มันเป็นอาหารที่น่าสนใจและมีความเสถียรภาพในความนิยมต่อเนื่อง
เสน่ห์ของหมกหม้ออย่างหนึ่งคือรสชาติที่เข้มข้นและความอร่อยของมัน การใช้เนื้อหมูสามชั้นที่นุ่มนวลและรสชาติหวาน คลุกเคล้ากับหน่อไม้และเครื่องปรุงที่เหมาะสม ทำให้หมกหม้อมีรสชาติที่เข้ากันอย่างลงตัว มีความอร่อยและให้ความสนุกในการรับประทานอาหาร นอกจากนี้หมกหม้อยังมีส่วนผสมของสมุนไพรที่ทำให้มีกลิ่นหอมและรสชาติที่น่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น
การเสิร์ฟหมกหม้อยังเป็นเรื่องที่น่าสนใจและสร้างความท้าทายในการเสิร์ฟ โดยการเสิร์ฟพร้อมกับใบมะกรูด ใบแมงลัก และเครื่องเคียงอื่นๆ ที่เพิ่มความเข้มข้นให้กับรสชาติของหมกหม้อ การเสิร์ฟหมกหม้อให้น่าตื่นเต้นและน่าสัมผัส ทำให้มันเป็นเมนูที่น่าสัมผัสและทำให้คนต้องตื่นเต้นในการลองรับประทาน
ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติ หมกหม้อยังคงเป็นอาหารที่นิยมและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย การทำหมกหม้อก็ไม่ยุ่งยาก และสามารถทำได้ทั้งในบ้านและร้านอาหาร ดังนั้น หมกหม้อจึงกลายเป็นเมนูที่เปิดโอกาสให้กับทุกคนในการสร้างความอร่อยและความสนุกในการทำอาหารอย่างไม่ยากย่อย
5. ควรระวังอะไรเมื่อทำหมกหม้อ
การทำหมกหม้อเป็นกระบวนการที่มีขั้นตอนและเรื่องราวที่น่าสนุกและน่าตื่นเต้น อย่างไรก็ตาม การทำหมกหม้อก็ต้องใส่ใจและควรระวังเรื่องที่สำคัญต่อความปลอดภัยและความสะอาดของอาหาร นอกจากนี้ยังควรระวังด้านสุขภาพให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อร่างกายด้วย
- ควรระวังการใช้หน่อไม้: ตรวจสอบหน่อไม้ให้ดีก่อนการใช้งาน อย่าใช้หน่อไม้ที่มีร่องรอยของการแห้งหรือที่เกินอายุในการใช้งาน เนื่องจากอาจมีความเสียหายต่อร่างกายหรือส่งผลกระทบต่อรสชาติของอาหาร
- ควรเลือกเนื้อหมูคุณภาพดี: เลือกใช้เนื้อหมูสามชั้นที่สดใหม่และมีความสะอาด การเลือกเนื้อหมูที่ไม่ดีอาจทำให้รสชาติของหมกหม้อไม่อร่อยและอาจเสียหายต่อสุขภาพ
- ควรใส่ใจกับการเก็บรักษาเครื่องปรุง: เครื่องปรุงที่ใช้ในการทำหมกหม้อควรเก็บรักษาให้เหมาะสมและอยู่ในสภาพที่สะอาด เพื่อป้องกันการเกิดการปนเปื้อนหรือส่งผลกระทบต่อความสะอาดและรสชาติของอาหาร
- ควรดูแลเรื่องความสะอาด: การทำหมกหม้อต้องใส่ใจในเรื่องความสะอาดของอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำอาหาร ควรล้างจาน ช้อน กระทะ และอุปกรณ์อื่นๆ ให้สะอาดหลังจากใช้งานเสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคและรังสี
- ควรตรวจสอบระหว่างการทำอาหาร: ตรวจสอบอุปกรณ์และรสชาติของอาหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้รับความอร่อยและปลอดภัยในการรับประทานหมกหม้อ
การทำหมกหม้อเป็นเรื่องที่สนุกและน่าตื่นเต้น แต่ควรใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยและความสะอาดเสมอ โดยการปฏิบัติตามขั้นตอนและคำแนะนำที่ถูกต้อง จะทำให้หมกหม้อของคุณอร่อยและสร้างความท้าทายให้กับการรับประทานอาหารอย่างไม่มีข้อผิดพลาด
6. เคล็ดลับในการเตรียมหน่อไม้และเนื้อหมู
การเตรียมหน่อไม้และเนื้อหมูให้พร้อมในการทำหมกหม้อเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการสร้างความอร่อยและความเสถียรให้กับอาหารที่ทำ ด้วยเหตุนี้ มีเคล็ดลับและวิธีการที่ควรใส่ใจเมื่อทำการเตรียมวัตถุดิบเหล่านี้
- การเลือกหน่อไม้: เมื่อเลือกซื้อหน่อไม้ควรเลือกหน่อไม้ที่มีความสดใหม่และไม่แห้ง เนื่องจากหน่อไม้ที่สดมีความนุ่มนวลและหอมหวาน อาจคลุกเคล้ากับเนื้อหมูสามชั้นได้ดีกว่าหน่อไม้ที่แห้ง
- การเตรียมเนื้อหมู: ในการเตรียมเนื้อหมูควรตัดเนื้อเป็นชิ้นเล็กๆ และควรให้เนื้อหมูสามชั้นต้มให้สุกนุ่มก่อนการใช้งาน เพื่อให้เนื้อหมูสามชั้นสุกและรสชาติที่เข้มข้น
- การเตรียมเครื่องปรุง: ควรสับหอมแดง ต้นหอม พริแดง และตะไคร้ให้ละเอียด เพื่อให้เครื่องปรุงผสมกันอย่างละเอียดและสามารถเคลื่อนไหวในหมกหม้อได้ดี
- ควรใช้น้ำใบย่านาง: น้ำใบย่านางเป็นส่วนผสมที่สำคัญในหมกหม้อ ให้ใช้น้ำใบย่านางที่สดและสะอาด และควรใส่ให้เพียงพอต่อปริมาณของหน่อไม้และเนื้อหมู เพื่อให้ได้รสชาติของหมกหม้อที่เข้มข้นและอร่อยที่สุด
เมื่อทราบเคล็ดลับเหล่านี้แล้ว การเตรียมหน่อไม้และเนื้อหมูในการทำหมกหม้อจะเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น ทำให้สามารถสร้างความอร่อยและความสุขให้กับครอบครัวและผู้คนที่รับประทานอาหารได้ในทุกๆ โอกาส
7. เคล็ดลับในการเตรียมเครื่องปรุง
เครื่องปรุงเป็นส่วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเมื่อทำหมกหม้อ เนื่องจากเครื่องปรุงที่ถูกใช้ในการทำอาหารนั้นมีบทบาทสำคัญในการสร้างความอร่อยและกลิ่นหอมของอาหาร นอกจากนี้ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้รสชาติของหมกหม้อเปรี้ยวหวานลงตัวและอร่อยขึ้น ดังนั้น มีเคล็ดลับในการเตรียมเครื่องปรุงที่น่าสนใจและควรใส่ใจเมื่อทำอาหารเหล่านี้
- ใช้ส่วนผสมสดใหม่: เลือกใช้ส่วนผสมที่สดใหม่และมีความหอม อย่าใช้เครื่องปรุงที่มีกลิ่นเหม็นหรือเปลี่ยนสี เพราะอาจทำให้รสชาติของหมกหม้อไม่ถูกต้อง
- การบีบอัดส่วนผสม: หลังจากที่สับเครื่องปรุงเป็นชิ้นเล็กๆ ควรใช้วิธีการบีบอัดเพื่อให้เครื่องปรุงมีกลิ่นหอมและรสชาติที่เข้มข้น การบีบอัดยังช่วยให้เครื่องปรุงเกิดกลิ่นอันหอมหวานที่ดีเมื่อใช้ในการทำอาหาร
- การจัดเรียงเครื่องปรุง: ควรจัดเรียงเครื่องปรุงที่สับเตรียมไว้ให้เป็นที่เรียบร้อยและสะดวกต่อการใช้งาน ในกระทะหรือหมกหม้อที่ใช้ทำอาหาร
- การสังเกตการณ์รสชาติ: ขณะทำการเคลือบเครื่องปรุงในหมกหม้อควรสังเกตการณ์รสชาติของอาหารให้ดี ควรปรุงรสตามชอบและตรวจสอบความเข้มข้นของรสชาติเพื่อให้ได้รสชาติที่ต้องการ
การเตรียมเครื่องปรุงให้เหมาะสมและถูกต้องจะทำให้หมกหม้อที่ทำออกมาอร่อย หอมหวาน และให้ความสนุกสนานในการรับประทานอาหาร นอกจากนี้ยังสร้างความประทับใจให้กับคนที่มีโอกาสได้ลองรับประทานหมกหม้อด้วย
8. วิธีการเสิร์ฟหมกหม้อให้น่ากลิ่น
การเสิร์ฟหมกหม้อให้มีกลิ่นหอมหวานและน่าตื่นเต้นเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อเพิ่มความอร่อยและความประทับใจให้กับอาหาร นอกจากความอร่อยที่อาหารมีเองแล้ว วิธีการเสิร์ฟและเสิร์ฟพร้อมกับส่วนผสมเพิ่มเติมยังสามารถทำให้หมกหม้อมีกลิ่นหอมที่น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น
ใส่ใบมะกรูดและใบแมงลัก: ในการเสิร์ฟหมกหม้อควรใส่ใบมะกรูดและใบแมงลักเพิ่มเติมลงไปในหมกหม้อที่ทำอาหาร ทั้งสองชนิดของใบพืชนี้มีกลิ่นหอมและอายุ่นที่สะกดที่สามารถเพิ่มกลิ่นหอมให้กับหมกหม้อ
การเสิร์ฟพร้อมกับใบมะกรูดและใบแมงลัก: เมื่อเสิร์ฟหมกหม้อให้นำหมกหม้อที่เตรียมอาหารเสร็จสิ้นไปเสิร์ฟในชามพร้อมใส่ใบมะกรูดและใบแมงลัก ทำให้กลิ่นหอมที่ของหมกหม้อแพร่กระจายออกมากลิ่นเข้มข้น
เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียง: เมื่อเสิร์ฟหมกหม้อให้เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงเพิ่มเติม อาทิเช่น ข้าวเบือ พริกน้ำปลา น้ำปลาร้า เป็นต้น ทำให้หมกหม้อมีรสชาติที่คล้ายคลึงกันและทำให้กลิ่นหอมหวานของหมกหม้อเปรี้ยวหวานและน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น
การเสิร์ฟหมกหม้อให้มีกลิ่นหอมหวานเป็นเรื่องที่ง่ายและสามารถทำได้ด้วยวิธีเหล่านี้ ทำให้การรับประทานหมกหม้อมีความสุขและเสน่ห์ที่น่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นในทุกๆ โอกาส
9. การรับประทานหมกหม้อแบบใกล้ตัวกับวัฒนธรรมไทย
การรับประทานหมกหม้อเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนไทยมากมาย หมกหม้อถูกพบและมีความนิยมอยู่ในภูมิภาคอีสานของประเทศไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีวัฒนธรรมและทัศนคติที่แตกต่างกับพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ การรับประทานหมกหม้อแบบใกล้ตัวกับวัฒนธรรมไทยมีลักษณะดังนี้
อาหารที่มีสีสันและรสชาติที่เข้มข้น: หมกหม้อเป็นอาหารที่มีสีสันสดใสและรสชาติที่เข้มข้น มีการใช้สมุนไพรและเครื่องปรุงที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทย เช่น พริกเผา พริกแห้ง หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ มะกรูด เป็นต้น ทำให้การรับประทานหมกหม้อเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและหลงใหลในรสชาติ
การรับประทานแบบร่วมกัน: หมกหม้อเป็นอาหารที่มีลักษณะในการรับประทานแบบร่วมกัน หมกหม้อจะถูกจัดเสิร์ฟบนโต๊ะกลางให้คนที่ร่วมรับประทานหยิบด้วยมือของตนเอง และทำให้การรับประทานอาหารเป็นการมาร่วมกันของครอบครัวและเพื่อนฝูง ทำให้เป็นเวลาที่มีความสนุกสนานและความสนุกสนาน
การรับประทานแบบไม่เร่งรีบ: การรับประทานหมกหม้อในวัฒนธรรมไทยมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์คือการรับประทานอาหารแบบไม่เร่งรีบ คนไทยมักใช้เวลาในการรับประทานอาหารและเพลิดเพลินกับความอร่อยของหมกหม้อแบบไม่ห่วงหนี้ความเร่งรีบ ทำให้เป็นช่วงเวลาที่สร้างความสุขและความสบายใจในการรับประทานอาหาร
การรับประทานหมกหม้อแบบใกล้ตัวกับวัฒนธรรมไทยเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นและน่าสนุกสนาน ทำให้หมกหม้อเป็นเมนูอาหารที่มีความนิยมและเป็นที่รู้จักทั่วไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาหารที่ทำจากหมกหม้อนั้นไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังสะกดทุกของทุกมิติทางทัศนศาสตร์และวัฒนธรรมไทยที่น่าตื่นเต้น
10. สรุป
หมกหม้อเป็นอาหารที่มีความนิยมและเป็นที่รู้จักในวงกว้างทั้งในประเทศและต่างประเทศ เสิร์ฟแล้วส่งผลให้เกิดความอร่อยและความตื่นเต้นให้กับผู้รับประทานอาหาร วิธีการทำหมกหม้อในแบบของวัฒนธรรมไทยนั้นเป็นเรื่องสนุกสนานและน่าตื่นเต้น และมีความหลากหลายในเมนูและรสชาติ เราควรระวังเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยในการทำหมกหม้อ และเตรียมเครื่องปรุงและวัตถุดิบให้ถูกต้องเพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นหอมที่เข้มข้นที่สุด
FAQs
จำนวนแคลอรีในหมกหม้อมีเท่าไร?
ความเปลี่ยนแปลงของแคลอรีในหมกหม้อขึ้นอยู่กับปริมาณและประเภทของส่วนผสมที่ใช้ในการทำ อย่างไรก็ตาม หมกหม้อมักเป็นเมนูที่มีแคลอรีในปริมาณที่สูงเนื่องจากมีการใช้น้ำมันและเนื้อหมูสามชั้น การบริโภคควรทำในขอบเขตที่เหมาะสมและควบคู่กับการออกกำลังกาย
หมกหม้อมีวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ใดบ้าง?
หมกหม้อเป็นอาหารที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมที่อยู่ในภูมิภาคอีสานของประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีสัมผัสกับวัฒนธรรมล้านนา และมีความแตกต่างกับอาหารในพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ การรับประทานหมกหม้อในวัฒนธรรมไทยมักเป็นเวลาที่ครอบครัวรวมตัวกันและเป็นเวลาที่สร้างความสุขและความสนุกสนาน
การเลือกหน่อไม้ในการทำหมกหม้อควรใส่ใจอย่างไร?
การเลือกหน่อไม้ควรใส่ใจในเรื่องความสดใหม่และไม่แห้ง เนื่องจากหน่อไม้ที่สดมีความนุ่มนวลและมีกลิ่นหอมที่ดีกว่าหน่อไม้ที่แห้ง ควรตรวจสอบหน่อไม้ให้ดีก่อนการใช้งานและอย่าใช้หน่อไม้ที่มีร่องรอยของการแห้งหรือที่เกินอายุในการใช้งาน
หมกหม้อสามารถเสิร์ฟกับอาหารประเภทใดบ้าง?
หมกหม้อสามารถเสิร์ฟร่วมกับอาหารประเภทต่าง ๆ อาทิ ข้าวเหนียว ข้าวเปลือก ข้าวกล้อง หรือข้าวเจ้า นอกจากนี้ยังสามารถเสิร์ฟกับผักสด ผักต้ม หรือผักทอดได้ ขึ้นอยู่กับความชอบและความคล้ายคลึงของรสชาติ
การเตรียมหมกหม้อให้น่ากลิ่นนั้นมีเคล็ดลับอะไรบ้าง?
เพื่อให้หมกหม้อมีกลิ่นหอมที่น่ากลิ่น สามารถใส่ใบมะกรูดและใบแมงลักในหมกหม้อได้ นอกจากนี้ยังสามารถใส่สมุนไพรและเครื่องปรุงอื่น ๆ ที่ช่วยให้หมกหม้อมีกลิ่นหอมหวานยิ่งขึ้น การเสิร์ฟหมกหม้อพร้อมกับใบมะกรูดและใบแมงลักยังช่วยให้กลิ่นหอมของหมกหม้อแพร่กระจายออกมากลิ่นเข้มข้นยิ่งขึ้น